top of page

MAX KLEIN BIBLE MINISTRIES

บทสรุป

ชีวิตฝ่ายวิญญาณที่ทำให้เรามีสัมพันธภาพกับพระเจ้า จำเป็นต้องอาศัยปัจจัย 2 อย่างซึ่งจะต้องอยู่คู่กันเสมอ  ได้แก่  หลักคำสอนพระคัมภีร์ในจิตใจและการประกอบด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์  พระวิญญาณบริสุทธิ์จะดึงหลักคำสอนพระคัมภีร์ที่เราได้สะสมไว้ในจิตใจ และนำมาถึงกระแสความคิด (ยอห์น 14:26) เพื่อให้เราตัดสินใจอย่างถูกต้องเมื่อเราต้องใช้เสรีภาพในการตัดสินใจ (volition)  ด้วยเหตุนี้  ทั้งหลักคำสอนพระคัมภีร์และพระวิญญาณบริสุทธิ์จะนำความคิดของเราให้ความคิดได้ตรงกับน้ำพระทัยของพระเจ้า  ซึ่งก็จะทำให้การกระทำของเราถวายเกียรติแด่พระองค์   นี่คือสัมพันธภาพกับพระเจ้า

หลักคำสอนพระคัมภีร์ได้สอนเราให้ทราบถึงพระลักษณะของพระเจ้า และความรักที่พระองค์มีต่อเรา  ความรักของพระเจ้าไม่ใช่อารมณ์แต่เป็นความรักที่มีคุณธรรม (อากาเป) ความรักนี้ประกอบด้วยความชอบธรรม ความยุติธรรม  พระคุณ และความสัพพัญญูของพระองค์  ก่อนที่ผู้เชื่อจะสามารถมีสัมพันธภาพกับพระเจ้าได้ เขาจะต้องรู้จักและสำนึกถึงคุณค่าขององค์ประกอบเหล่านี้  ซึ่งเป็นส่วนของพระลักษณะของพระองค์  การที่ผู้เชื่อรู้จักและสำนึกถึงคุณค่าของความรักของพระเจ้าจะสำแดงออกด้วยการปักใจไว้กับพระองค์ด้วยความชอบธรรมในชีวิตส่วนตัว  และด้วยการสำแดงความรักและความเมตตากรุณาของพระองค์นั้นแก่ผู้อื่น   ขอสังเกตว่า  การที่จะสำแดงความรักของพระเจ้านั้นได้ก่อเกิดจากความคิด [หลักคำสอนพระคัมภีร์ที่ได้สะสมในจิตใจ] ไม่ใช่จากอารมณ์ อารมณ์ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้เราเห็นถึงสิ่งที่อยู่ในจิตใจ เพื่อให้เราเห็นคุณค่าและสามารถตอบสนองต่อสิ่งที่อยู่ในกระแสความคิด  อย่างไรก็ตาม  ถ้าเราปล่อยอารมณ์ให้ควบคุมจิตใจ (ให้อารมณ์ครอบงำหรือนำหน้าความคิด) คำพูดและการกระทำของเราจะไร้เหตุผล เราอาจอธิบายถึงอารมณ์ว่าเป็นประสบการณ์ด้านความรู้สึก  ถ้าความรู้สึกของคุณเป็นบรรทัดฐานในชีวิต คุณจะเป็นคริสเตียนที่ไม่สามารถดำเนินชีวิตตามน้ำพระทัยพระเจ้าได้  

ในการนมัสการที่มีผู้นำอธิษฐานอย่างตื่นเต้น ดนตรีก็เล่นไปอย่างเร้าใจ คนมากมายร้องไห้และบรรยากาศทำให้ขนลุก  ผู้ร่วมนมัสการอาจรู้สึกว่าเขากำลังมีประสบการณ์ฝ่ายวิญญาณที่ลึกซึ้ง  ด้วยบรรยากาศแบบนี้แม้แต่ผู้ที่ไม่เชื่อในพระคริสต์ก็คงต้องรู้สึกว่า  เขากำลังมีประสบการณ์ฝ่ายวิญญาณเช่นเดียวกัน  แท้จริงคืออารมณ์ได้เข้ามาครอบงำความคิด แล้วส่วนผู้เชื่อเขากำลังนมัสการพระเจ้าด้วยอารมณ์ ไม่ใช่ด้วยความคิดที่ได้รับการทรงนำจากพระวิญญาณบริสุทธิ์และจากหลักคำสอนพระคัมภีร์ในจิตใจ (ยอห์น 4:24)

ผู้เชื่อที่ยอมให้อารมณ์มีอิทธิพลต่อความคิดก็จะพลาดในการรับใช้พระเจ้าเพราะแรงจูงใจที่ไม่ถูกต้อง  เขาอาจต้องการรับใช้พระองค์เพราะอยากรู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่า  หรือต้องการให้คนอื่นมองเขาในแง่ดี หรือเขาอาจรับใช้พระเจ้าเพื่อเป็นการปลดเปลื้องความรู้สึกผิดจากบาปที่มีอยู่  ถ้าคริสเตียนรับใช้พระเจ้าเพราะอยากรู้สึกดี แทนที่จะรับใช้พระองค์เพราะการสำนึกในพระลักษณะของพระองค์ และความรักที่พระองค์มีต่อเขาอย่างเป็นการส่วนตัว การกระทำของเขาไร้ประโยชน์และถือว่าเขาได้ล้มเหลวในชีวิตฝ่ายวิญญาณ  ผู้เชื่อที่มักกระทำตามอารมณ์ก็จะแพ้ต่อการทดสอบความเชื่ออยู่เสมอ ซึ่งเป็นเวลาที่ผู้เชื่อต้องอาศัยพระวิญญาณบริสุทธิ์ในการนำหลักคำสอนพระคัมภีร์ที่เขาได้สะสมไว้ในจิตใจมาประยุกต์ใช้กับสถานการณ์เพื่อที่เขาจะมีชัยชนะเหนือมารซาตาน  โลก  และธรรมชาติบาปของตน   ถ้าอารมณ์ได้ควบคุมจิตใจ  ผู้เชื่อจะใช้เสรีภาพในการตัดสินใจเพื่อที่จะกระทำตามความปรารถนาของเนื้อหนัง แทนที่จะทำตามน้ำพระทัยของพระเจ้า

เป็นสิ่งสำคัญมากที่คริสเตียนจะต้องพัฒนาความรักที่มีต่อพระเจ้าโดยการเติบโตในพระคุณและความรู้เกี่ยวกับพระเจ้าพระบิดา  พระบุตร  และพระวิญญาณบริสุทธิ์   เขาจะสามารถบรรลุเป้าหมายนี้ได้ก็ต่อเมื่อเขาได้เรียนหลักคำสอนพระคัมภีร์ทุกๆ วัน  และประยุกต์หลักคำสอนพระคำภีร์นั้นมาใช้กับชีวิตภายใต้การประกอบด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์  ผู้เชื่อจำเป็นต้องรักษาสัมพันธภาพกับพระเจ้าไว้โดยการมีชีวิตที่บริสุทธิ์และโดยเห็นแก่พระคุณของพระเจ้า   พระองค์ทรงโปรดจัดเตรียมระเบียบการให้เรา เพื่อที่เราจะสามารถตั้งต้นใหม่กับพระองค์และก้าวต่อไปในชีวิตฝ่ายวิญญาณ แค่เราสำนึกในการกระทำบาปของเราและกล่าวถึงบาปนั้นต่อพระบิดา  พระองค์จะทรงชำระเราให้บริสุทธิ์ซึ่งจะทำให้เราได้รับการประกอบด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์  และนำเราเข้าสู่สัมพันธภาพกับพระเจ้าอีกครั้งหนึ่ง      

bottom of page